South Beach Diet
เอาละครับ ตอนนี้ผมจะมาเล่าเรื่องวิธีการกินอีกแบบหนึ่งที่เป็น low-carb diets (การกินคาร์โบไฮเดรตต่ำๆ) นอกเหนือจาก Atkin diet ที่เคยเล่าให้ฟังกันไปในตอนก่อนๆ นั้นคือ South Beach Diet ซึ่งเป็นที่นิยมกันเหลือเกินในอเมริกา ไม่แพ้กัน แม้แต่ตัว อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน เอง ยังเข้าคอร์สนี้เพื่อลดน้ำหนักเลยครับ
Dr. Arthur Agatston เป็นคุณหมอเจ้าทฤษฎีนี้ ซึ่งนิวาสสถานของพี่แกอยู่แถวๆ South Florida ใครก็รู้ว่าเป็นย่านที่มีหาดทรายสวย ชื่อดังไปทั่วโลก เลยเป็นที่มาในการตั้งชื่อสูตรให้ดูเก๋ไก๋เล่นๆโก้ๆ
พื้นฐานของแนวคิดนี้อยู่ที่ว่า ไอ้คนเราที่อ้วนขึ้นมานี้ ก็เป็นเพราะระดับของน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะสูงขึ้นเมื่อคุณกินพวกคาร์โบไฮเดรตมากๆ แล้วทำให้ร่างการผลิตอินซูลินออกมา กวาดล้างน้ำตาลทั้งหลายให้กลายเป็นไขมันสะสมไว้ในร่างกายของเรา (รายละเอียดอ่าน กินแป้งอย่างไร ไม่ให้อ้วน)
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้เกิดแนวคิดการทานคาร์โบไฮเดรตต่ำๆ เพื่อรักษาระดับน้ำตาลให้อยู่ในสภาพสมดุล ทำให้คนเราผอมลงมาได้ ทั้ง Atkin และ South Beach diets ต่างก็วางอยู่บนแนวคิดพื้นฐานนี้
ดูอย่างนี้ทั้งสองวิธีก็ไม่แตกต่างกันเท่าไร แต่ South Beach ซึ่งมาทีหลังเห็นว่า Atkin diet นี้ค่อนข้างมีจุดอ่อนอยู่ 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือ Atkin ปฏิเสธคาร์โบไฮเดรตในระดับที่รุนแรง แต่ South Beach ยอมรับว่า สามารถกินคาร์โบไฮเดรตได้หลังจาก 2 อาทิตย์ที่เข้าโปรแกรม ทั้งนี้ คาร์โบไฮเดรตที่กินควรจะมีอิทธิพลต่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ โดยพิจารณาจาก ดัชนี ไกลซีมิค (Glycemic Index) นั้นเอง
ดังนั้นคาร์โบไฮเดรตก็แบ่งออกเป็นพวก คาร์โบไฮเดรตตัวดี เช่น ผลไม้ ผัก และบรรดาถั่วต่างๆ และคาร์โบไฮเดรตตัวร้าย เช่น แป้งขัดขาว หรือน้ำตาล เป็นต้น
ประเด็นที่สอง ด้วยความกังวลว่าหากคนกินโปรตีนและไขมันเยอะๆ ตาม Atkin diet อาจจะเป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดอุดตันได้ เพราะกินพวกไขมันอิ่มตัวเข้าไปมากๆ ซึ่งไขมันพวกนี้จะมีมากในเนื้อสัตว์ หากกินแบบไม่บันยะบันยัง อาจจะอายุไม่ยืน South Beach diet พยายามเน้นไปที่การกินไขมันชนิดดี คือ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน โดยให้เลือกกินพวกเนื้อสัตว์ที่ไม่มีมัน กินเนื้อปลา รวมถึงน้ำมัน โอลีฟ และ คาโนลา
ดูไปแล้ว South Beach ดูจะเป็นห่วงสุขภาพของเรามากกว่า Atkin ไม่ได้เพียงแค่คำนึงถึงความผอมแต่อย่างเดียว แต่ต้องเป็นผอมที่ดีต่อสุขภาพด้วย
สำหรับ South Beach diet สามารถแบ่งออกเป็น 3 ช่วงคือ
(1) ช่วงที่ 1 - ขอเรียกว่าช่วงหักดิบคาร์โบไฮเดรตแหละกัน ช่วงนี้มีระยะเวลา 2 สัปดาห์ ห้ามกินเลยครับไม่ว่าจะเป็น ขนมปัง ข้าว มันฝรั่ง พาสต้า เค๊ก คุ๊กกี้ น้ำตาล แอลกอฮอล์ หรืออื่นๆที่เป็นแป้งและน้ำตาล เน้นให้กินพวกเนื้อต่างๆ แต่ขอให้เอาไขมันออก นอกจากนี้ยังสามารถกินไข่ไม่จำกัดจำนวน ของหวานที่ปราศจากน้ำตาล ถั่วๆต่างๆ และชีสที่น่ากินทั้งหลาย น้ำชา กาแฟ ก็กินได้ (แต่ห้ามใส่น้ำตาลนะ) ช่วงนี้จะสามารถลดได้ประมาณ 8-13 ปอนด์ ใน 2 อาทิตย์แรก
(2) ช่วงที่ 2 - ขอเรียกว่า ช่วงระยะฟื้นฟู หลังจาก 2 อาทิตย์แรกผ่านไปให้ค่อยๆหันกลับมากินคาร์โบไฮเดรตได้ แต่ก็อย่างที่บอกคือ เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดตัวดี หรือมีค่าดัชนีไกลซีมิคต่ำช่วงนี้น่าจะลดได้ประมาณ 1-2 ปอนด์ต่อสัปดาห์
(3) ช่วงที่ 3 - เรียกว่า ช่วงรักษาน้ำหนัก เมื่อน้ำหนักคุณลดลงจนถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว ก็เข้าสู่ช่วงที่ 3 ซึ่งช่วงนี้จะเป็นเรียนรู้การกินแบบปกติในสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่ใช้ไปกินแบบกินล้างกินผลาญแบบเดิมๆอีก
วิธีของ South Beach diet มีข้อดีคือไม่ต้องมานั่งอดอาหาร เพราะการอดมักจะทำให้ตบะแตก ข้อดีอีกประการคือ ไม่ต้องห่วงเรื่อง โยโย แอฟเฟก เพราะเรายังคงกินเยอะ ไม่ทำให้ ระบบการเผาผลาญผิดเพี้ยนไป เหมือนกินพวกยาลดหรืออาหารที่มีแคลอรีต่ำมากๆ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสีย การกินโปรตีนมากๆ จะทำให้เกิดของเสีย เป็นกรดยูลิก ซึ่งร่างกายจะขับออกมาทางปัสสาวะ ทำให้ไตทำงานหนักมากขึ้น นอกจากนี้ การขับกรดยูลิกยังมีผลให้ร่างกายไปดึงเอาแคลเซียมออกมาด้วย อาจจะเป็นโรคกระดูกพรุนได้
ความคิดผม South Beach diet น่าจะเหมาะสมกว่า Atkin diet ในแง่ของผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
No comments:
Post a Comment